REVIEW | HONOR Magic5 Pro สุดยอดเรือธงกล้องโหด ฟีเจอร์เพียบ พร้อมชนมือถือราคา 40,000+ ค่ายอื่นสบาย ๆ

ดีไซน์ตัวเครื่อง

ตัวเครื่องของ HONOR Magic5 Pro มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ตามสไตล์มือถือเรือธงจอยักษ์ทั่วไป (6.81 นิ้ว) แน่นอนว่าเวลาใช้งานมือเดียวก็จะทุลักทุเลเสียวเครื่องหล่นอยู่

ตัวเครื่องจะออกแนวโค้งมนทั้งมุมเครื่องและสันเครื่อง ดีไซน์แบบสมมาตรมีความโค้งแบบสมมาตรเท่ากันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขอบเครื่องด้านขวามีปุ่ม Power และปุ่มปรับเสียง, ด้านซ้ายโล่ง ๆ ไม่มีอะไร, ด้านบนมีช่องลำโพงที่เชื่อมกับช่องลำโพงสนทนา (เวลาปิดรูใดรูหนึ่งเสียงยังคงออกมาได้), ไมโครโฟน และมี IR Blaster สำหรับใช้สั่งการอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ, ด้านล่างมีพอร์ท USB-C, ลำโพง,ไมโครโฟน และถาดซิม

ด้านหลังจะเห็นจุดเด่นสุด ๆ คือโมดูลกล้องวงกลมขนาดยักษ์อยู่ตรงกลางเครื่องพร้อมเลนส์กล้อง 3 ตัว และเซนเซอร์ dToF+แฟลช ซึ่งบริเวณนี้จะนูนขึ้นมาจากฝาหลังพอสมควรเลย อันนี้แม้ว่าจะใส่เคสที่แถมมา เวลาวางหงายเครื่องก็ยังอดเสียวไม่ได้ว่าเลนส์กล้องจะไปขูดอะไรเป็นรอยเข้ารึเปล่า นอกจากนี้เวลาจับเล่นเกม ฝาหลังของมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือสีเขียว (ที่เราใช้รีวิว) เป็นพื้นผิวทรายละเอียดมีความวิบวับเล็กน้อยเมื่อโดนแสง กับอีกสีเป็นสีดำพื้นผิวเรียบมันวาว

หน้าจอสุดงาม

HONOR Magic5 Pro ใช้หน้าจอพาเนล AMOLED ขนาด 6.81 นิ้ว ขอบโค้ง ความละเอียด 1312 x 2848 รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz เป็นจอแบบ LTPO ที่สามารถลดรีเฟรชเรทลงไปต่ำสุดได้ 1Hz ช่วยประหยัดพลังงานเวลาไม่มีการเคลื่อนไหวบนหน้าจอ


มุมจอด้านซ้ายบนเจาะรูเป็นแถบยาวไว้วางกล้องเซลฟี่ + เซนเซอร์ 3D ToF สำหรับใช้สแกนหน้าจอ 3 มิติ หรือจะใช้สแกนนิ้วมือบนหน้าจอก็ได้เหมือนกัน (เปิดใช้งาน 2 วิธีปลดล็อคนี้ได้พร้อมกัน)

หน้าจอของ Magic5 Pro เลือกปรับความละเอียดได้ระหว่าง High (2848 x 1312) Standard (2492 x 1148) Low (2136 x 984) หรือจะตั้ง Smart Resolution ให้ระบบปรับความละเอียดจออัตโนมัติตามการใช้งาน



รีเฟรชเรทก็ปรับได้ตั้งแต่ 60Hz / 90Hz / 120Hz และ Dynamic (อัตโนมัติ 1-120Hz) ตามการใช้งาน

มีโหมด Video Enhancer สำหรับปรับการแสดงผลสีของวิดีโอที่เล่นจากแอปต่าง ๆ ช่วยเพิ่มขอบเขตความกว้างของสีจากวิดีโอต้นฉบับให้มากขึ้น

และยังมี Frame Rate Booster ที่ช่วยอัปสเกลเฟรมเรท (fps) ของวิดีโอให้ลื่นไหลมากกว่าต้นฉบับ อันนี้ถ้าเปิดไว้เวลาดูหนังอาจจะรู้สึกแปลก ๆ เพราะปกติหนังจะมีเฟรมเรทที่ 24fps พอเฟรมเรทสูงขึ้นแล้วมันจะไม่ค่อยชิน


กล้องหลังสุดเทพ

กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP มีกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 50MP + กล้อง Telephoto เลนส์ Periscope 50MP ซูม Optical 3.5x และซูม Digital สูงสุด 100x มีกันสั่น OIS และยังมีเซนเซอร์ dToF Laser Focusing System สำหรับจับความลึกช่วยให้โฟกัสภาพได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น

แต่ส่วนตัวคิดว่า UI กล้องบางส่วนยังใช้งานยากเพราะต้องเข้าไปปรับใน Settings เอา อย่างเช่นการปรับความละเอียดวิดีโอ การปรับโหมดถ่ายวิดีโอ HDR10+ ที่ต้องลองกดเปลี่ยนกันหลายรอบกว่าจะเปิดใช้ได้ (ต้องเข้าโหมด Movie ก่อนถึงจะเปิดได้)

FALCON CAPTURE ถ่ายวัตถุเคลื่อนไหวได้คมกริบ

หนึ่งในจุดขายของมือถือรุ่นนี้คือโหมด Falcon Capture ที่เราสามารถเลือกเปิด-ปิดได้จากโหมด Photo (รูปคนวิ่งซ้ายล่าง) ซึ่งโหมดนี้เราจะเลือกกดถ่ายเองก็ได้ หรือเข้าไปตั้งในหน้า Settings (ของแอปกล้อง) เพื่อเปิด Smart Capture โดยเมื่อเปิดแล้วกล้องจะจับโฟกัสของ คน หมา แมว ที่อยู่บนหน้าจออัตโนมัติ และเมื่อวัตถุนั้นเคลื่อนไหว ชัตเตอร์จะลั่นให้เองเลย แต่ระบบนี้จะจับโฟกัสอัตโนมัติได้ก็ต่อเมื่อมันตรวจจับได้ว่าเป็น หมา แมว หรือคนเท่านั้นนะครับ ถ้าจะถ่ายอย่างอื่นต้องกดชัตเตอร์เองนะ

จากการทดสอบแล้วบอกเลยว่า “ของเค้าดีจริง” คนวิ่ง คนกระโดด ผ่านหน้ากล้องก็โฟกัสพร้อมถ่ายอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำและคมสุด ๆ (ถ้าเป็นสิ่งของต้องกดชัตเตอร์เองนะครับ)

ซูม 100X

อีกจุดขายของรุ่นนี้คือกล้อง Telephoto ที่มีระยะ Optical Zoom ที่ 3.5x แต่สามารถดันระยะออกไปได้สูงสุดที่ 100x (เฉพาะภาพนิ่ง) ซึ่งคุณภาพอยู่ในระดับที่พอได้ แต่บอกตรง ๆ ว่ายังสู้ Galaxy S23 Ultra ไม่ได้ในเรื่องการซูม 100x ครับ (ส่วนการซูมในระยะต่ำกว่านั้นอย่าง 5x – 10x อยู่ในระดับที่ดีเลยล่ะ)

พกเข้าไปซูมในคอนเสิร์ต

มีโอกาสได้พกเข้าไปถ่ายในคอนเสิร์ต Blackpink เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา นั่งโซน E ซูมแบบ 50x ให้ดู (100x จะใกล้ไป และสั่นเป็นเจ้าเข้า) ก็พบว่า…ถ่ายออกมาดูไม่รู้เรื่องว่าใครเป็นครับ 5555 ส่วนนึงน่าจะเป็นเพราะแสงน้อยด้วย เลยยิ่งโฟกัสยากเข้าไปอีก

เทียบ ZOOM 100X กับ GALAXY S23 ULTRA

เทียบซูม 100x กับทาง Galaxy S23 Ultra จะเห็นเลยว่าของ Samsung ยังเห็นสายเคเบิ้ลเป็นเส้น ๆ ได้ แต่ของ Magic5 Pro เป็นปื้นไปเลย แถมความคมชัดก็ยังห่างกันเยอะ

โหมดวิดีโอเพียบ

ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ระดับ 4K 60fps / 4K 30fps HDR10+ เลือกถ่าย 4K ได้ทั้งกล้องหลัก และกล้อง Telephoto (แต่ไม่รู้ทำไมกล้อง Ultrawide ได้สูงสุดแค่ 1080p 30/60fps) ส่วนความนิ่งของระบบกันสั่นอยู่ในระดับดีเลย แต่เสียดายไม่มีโหมดกันสั่นขั้นสุดแบบ Super Steady ที่มือถือบางรุ่นสมัยนี้ให้มาด้วย

ที่มาของข้อมูล https://droidsans.com/review-honor-magic5-pro-premium-flagship-killer-features-pro-grade-camera/

ซื้อเเลยที่ Lazada






☝👆✊👇✋👈✌👉👊👌👍









ความคิดเห็น